วันพุธที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

ขั้นตอนการลงเสาเอก (ข้อมูลที่หามา)

<<< ตำรายกเสาเรือน >>>


หากคุณจะสร้างบ้านเรือน และยกเสาเอก ควรกระทำให้ถูกตามตำราดังนี้

ยกเสาเรือนเดือน ๔, ๕, ๖ ให้ยกเสาเอกทางทิศอาคเนย์ (ตะวันออกเฉียงใต้) จะเกิดโชคลาภ เป็นสิริมงคลแก่ผู้อยู่อาศัย

ยกเสาเรือนเดือน ๗, ๘, ๙ ให้ยกเสาเอกทางทิสหรดี (ตะวันตกเฉียงใต้) ผู้อยู่อาศัยในเรือน ปลอยภัยไร้โรคภัย มีโชคลาภดีนักแล

ยกเสาเรือนเดือน ๑๐, ๑๑, ๑๒ ให้ยกเสาเอกทางทิศพายัพ (ตะวันตกเฉียงเหนือ) จะเกิดสิริมงคล พ้นเคราะห์ภัย ไม่อับจน

ยกเสาเรือนเดือน ๑, ๒, ๓ ให้ยกเสาเอกทางทิศอีสาน (ตะวันออกเฉียงเหนือ) จะอยู่ดีกินดี เป็นมหาสิริมงคลแก่ผู้อยู่อาศัยเรือนนั้น


หมายเหตุ:
โบราณาจารย์ทั้งหลายท่านว่าไม่ควรปลูกเรือน สร้างบ้านที่อยู่อาศัย ในเดือน ๑, ๓, ๕, ๗, ๘, ๑๐, ๑๑ เดือนที่ควรปลูกเรือนคือเดือน ๒, ๔, ๖, ๙, ๑๒


หลังจากทำบุญทุกครั้ง ควรแผ่เมตตาหรือกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญให้เจ้ากรรมนายเวรและสรรพสัตว์ด้วย




<<<พิธียกเสาเอก >>>

ของใช้ในพิธี
- จัดโต๊ะหมู่บูชา ๑ ชุด พร้อมเครื่องสักการะ (ถ้าประสงค์)
- จตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระ ๑ ชุด (กรณีนิมนต์พระมาประพรมน้ำมนต์ที่หลุม และเจริญชัยมงคลคาถา)
- เครื่องบูชาฤกษ์หรือสังเวยเทวดา (จัดย่อส่วนก็ได้ ดูพิธีวางศิลาฤกษ์)
- ใบทอง นาก เงิน อย่างละ ๓ ใบ
- เหรียญทอง เงิน อย่างละ ๙ เหรียญ
- ทรายเสก ๑ ขัน
- น้ำมนต์ ๑ ขัน (พร้อมกำหญ้าคา ๑ กำ)
- ด้ายสายสิญจน์ ๑ ม้วนเล็ก
- ทองคำเปลว ๓ แผ่น
- ผ้าแพรสีแดง ห่มเสา หรือผ้าขาวม้า ๑ ผืน
- หน่อกล้วย อ้อย อย่างละ ๑ หน่อ
- ไม้มงคล ๙ ชนิด (ถ้าประสงค์)
- แผ่นทอง นาก เงิน อย่างละ ๑ แผ่น
- ข้าวตอกดอกไม้ ๑ ขัน


<<< ลำดับพิธี >>>
- วางสายสิญจน์ เริ่มจากโต๊ะบูชาไปโต๊ะสังเวยขวาบริเวณสถานที่ก่อสร้างเข้าสู่เสาเอก (ก่อนเวลาฤกษ์พอสมควร)
เจ้าภาพ - จุดเทียนธูปที่โต๊ะหมู่บูชา อธิษฐานเพื่อเกิดสิริมงคล กราบพระ
- จุดเทียนธูปที่โต๊ะสังเวย บูชาเทวดาให้คุ้มครอง
พิธีกร - กล่าวสังเวยเทวดา
เจ้าภาพ - ตอกไม้มงคล ๙ ชนิด (ถ้ามี)
- วางแผ่นทอง นาก เงินในหลุมเสาเอก (ถ้ามี)
- นำใบทอง นาก เงิน และเหรียญทอง เงิน ลงก้นหลุมแล้วนิมนต์พระสงฆ์ประพรมน้ำมนต์
โปรยทรายเสกที่หลุมเสา
- เจิมและปิดทองเสาเอก
- ผูกหน่อกล้วย อ้อย และผ้าสีแดงหรือผ้าขาวม้าที่เสาเอก
- ถือด้ายสายสิญจน์ พร้อมทั้งญาติมิตรผู้ร่วมพิธี
ช่าง - ช่วยกันยกเสาเอก จนตั้งเรียบร้อย (ขณะยกเสานั้นพระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา) (ถ้ามี)
เจ้าภาพ - โปรยข้าวตอกดอกไม้ลงหลุมเสาเอก พร้อมทั้งญาติมิตรผู้ร่วมพิธี เสร็จพิธี





<<< ไม้มงคลที่ใช้ในพิธีวางศิลาฤกษ์ >>>


ในการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน ก่อนทำการก่อสร้างนิยมทำพิธีวางศิลาฤกษ์โดยใช้ไม้มงคล 9 ชนิด ปักกับพื้นดินไม้ทั้ง 9 ชนิดมีชื่อเป็นมงคลนาม ดังนี้

1. ไม้ราชพฤกษ์ หมายถึง ความเป็นใหญ่และมีอำนาจวาสนา
2. ไม้ขนุน หมายถึง หนุนให้ดีขึ้นร่ำรวยขึ้น ทำอะไรจะมีผู้ให้การเกื้อหนุน
3. ไม้ชัยพฤกษ์ หมายถึง การมีโชคชัย ชัยชนะ
4. ไม้ทองหลาง หมายถึง การมีเงินมีทอง
5. ไม้ไผ่สีสุก หมายถึง มีความสุข
6. ไม้ทรงบาดาล หมายถึง ความมั่นคง หรือทำให้บ้านมั่นคงแข็งแรง
7. ไม้สัก หมายถึง ความมีศักดิ์ศรี ความมีเกียรติ
8. ไม้พะยูง หมายถึง การพยุงฐานะให้ดีขึ้น
9. ไม้กันเกรา หมายถึง ป้องกันภัยอันตรายต่าง ๆ หรืออีกชื่อหนึ่งว่าตำเสา ซึ่งอาจหมายถึง ทำให้เสาเรือนมั่นคง

ไม้มงคลเหล่านี้จะลงอักขระที่เรียกว่า หัวใจพระอิติปิโส ได้แก่ อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ ลงบนท่อนไม้ชนิดละอักขระ พร้อมทั้งปิดทองทั้ง 9 ท่อน โดยปักวนจากซ้ายไปขวา (ทักษิณาวรรต)
หาซื้อได้ตามร้านสังฆภัณฑ์

จากการ Post ของคุณต้นโพธิ์ต้นไทร ใน web pantip
http://topicstock.pantip.com/home/topicstock/2006/08/R4599306/R4599306.html


ส่วนบ้านของผม ... ยังไม่ทราบว่าจะทำครบทั้งหมดนี้หรือเปล่า ...

อาจจะต้องดู และสอบถามพระ หรือ ผู้ที่จะมาทำพิธีก่อน ...

ไปดูฤกษ์ลงเสาเอก

วันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม 2551

เดิมทีเรากะว่าจะไม่ต้องดูฤกษ์ เพื่อปลูกบ้าน ...

เพราะเวลามันช่างบีบ และเร่งรัด ... จนเราแทบไม่สนใจเลย ...

... แต่มีหลายคนที่ทัก และถาม ...

เราเลยกลับมาคิดว่า ก็ดีจะได้สบายใจ และเมื่อได้ทำแล้วรู้สึกว่า ... มันเป็นบ้านของเราที่เราต้องให้ความเอาใจใส่ ... มาก ขึ้นกว่าเดิม.... และรู้สึกเริ่มตื่นเต้น... ขึ้นกว่าเดิม ....



<<<ดั้งด้นไปอยุธยา>>>

เรา 2 คนดั้งด้นไปอยุธยา เพื่อไปหาพระที่วัดโพธิ์กบเจา

ซึ่งเราเคยไปให้ท่านดูดวงให้ คิดว่าค่อนข้างแม่น ....

(เมื่อปีที่แล้ว ... ก่อนเราออกรถใหม่ ท่านทำนายว่าเราจะเสียเงินเพราะรถ ก็แม่นจริงไหม?)

เมื่อไปถึง กุฎิของหลวงลุง เราเอยปากว่าจะขอให้ท่านดูดวง ท่านก็ไล่ให้เราไปดูที่วัดอื่น ๆ

แต่เราบอกท่านว่า เราเคยดูกับท่าน .... ท่านก็เลยยอมดูให้ ... ท่านบอกว่า ท่านจะเลิกดูแล้ว ...



<<< คำทำนาย OK >>>

ท่านให้เราบอกวันเดือนปีเกิด ... และท่านก็ ... เขียนตัวเลขในสมุดของท่าน ... และก็เริ่มทำนาย ...

ว่าเดือน 6 กับเดือน 9 เราจะเสียเงินเยอะและเงินจะขาดมือ และจะมีปัญหาเกี่ยวกับโฉนดที่ดิน ...

เราหันมายิ้มกัน (ก็คงเป็นเช่นนั้น เราปลูกเดือน พ.ค. กำหนดเสร็จประมาณ 4 เดือน ก็ประมาณเดือน ส.ค - ก.ย.) ... เลยต้องบอกท่านว่า.. "เรากำลังจะปลูกบ้าน" จะปลูกเดือนพฤษภาฯ

อยากให้หลวงลุง ดูฤกษ์ลงเสา และขึ้นเสาเอกให้ ...

<<< ได้ฤกษ์มาแล้ว >>>

เราได้ฤกษ์มา 2 วันคือ วันพุธที่ 14 พฤษภาคม 2551 6.00 - 12.00 น. เป็นวันลงเสา(เสาเจาะ)

และ วันพุธที่ 28 พฤษภาคม 2551 6.00- 12.00 น. เป็นวันขึ้นเสาเอก



<<< เหมาะเจาะ ลงตัวพอดี >>>

เพราะบ้านเริ่มรื้อวันที่ 4 พฤษภาคม 51 ใช้เวลาประมาณ 10 วัน ประมาณก่อนวันที่ 13

เริ่มลงเสาเจาะ วันที่ 14 พฤษภาคม 51 จำนวนประมาณ 20 ต้น ใช้เวลาประมาณ 10 วัน เสร็จก็ประมาณวันที่ 23

วันที่ 28 พฤษภาคม 51 ก็ขึ้นเสาเอก หลังจากนั้นช่างก็จะเริ่มทำคาน และขึ้นโครงสร้าง ก็ประมาณ 2 อาทิตย์ ก็ประมาณวันที่ 11 มิ.ย 51

ได้ตกลงกับ ธ.อาคารสงเคราะห์ ว่าจะต้องทำการขึ้นโครงสร้างให้แล้วเสร็จก่อน 30 มิ.ย. 51

ถึงจะทำสัญญาในอัตราดอกเบี้ย 2.99 (จากโครงการ New Home Buildder #3)



<<< งานต่อไป >>>
งานต่อไป เราต้องหาข้อมูลว่า เวลาเค้าทำการลงเสา และขึ้นเสาเอกนั้น เค้าทำกันอย่างไร ???

ตกลงรื้อบ้านเก่า

และแล้ว ..... เราก็สรุปว่าจะปลูกบ้านใหม่ ...

แบบบ้านใหม่เราเป็นอย่างไร ไว้ค่อยมาเล่าให้ฟัง

ตอนนี้ ... ตกลงขายบ้านเก่า โดยแลกกับการรื้อถอน

ไม่นึกเหมือนกันว่าบ้านเรา จะได้ราคาเหมือนกัน ...

แสนกับหนึ่งหมื่น หักค่ารื้อถอน 2 หมื่น เหลือ 9 หมื่น ....



กว่าเราจะตกลงว่าจะให้เค้ารื้อบ้าน ก็ต้องคิดทบทวนแล้ว ทบทวนอีก ...

พี่ชายนึกเสียดายไม้ อยากเก็บเอาไว้ เลยกะว่าจะจ้างช่างรื้อเอง และเก็บไม้ ไว้เองทั้งหมด ...

แต่พี่ชายก็ต้องเปลี่ยนใจ เพราะกลัวว่า ... จะต้องออกแรง.. ลุกขึ้นมาทำบ้านของตัวเอง...(บ้านพี่ชาย)



สรุป ... เหมือนคนละครึ่งทางอย่างไรไม่รู้

พี่ชายจะเอาบางส่วนเก็บไว้ ที่เหลือให้คนที่รื้อบ้านทั้งหมด

พี่ชายก็จะได้ หน้าต่าง 10 บาน (บานคู่) ประตู 5 บาน บันได ระบบไฟเดิม (ไม่รวมสายไฟ)

กันสาด และค่าแรงอีกประมาณ 3,000 บาท

เค้าตีรวมเป็น 25,000 บาน สรุป เราก็จะได้เงินคืน 65,000 บาท

ก็แฮปปี้นะ ....

(แต่ส่วนลึกจริง ๆ ก็เสียดาย ... แต่เดี๋ยวอีก 5 เดือนเราก็ได้บ้านใหม่แล้ว ฮิ ๆ ..)





ลืมบอกไป ... เผื่อมีใครกำลังจะรื้อถอนเหมือนเรา

เราหาผู้รื้อถอนจากบน Web โดย search จาก google ...

หาประมาณ 6-7 เจ้า ... แล้วนัดมาประเมินที่บ้าน .......

และก็เลือกที่ให้ราคาสูงสุด .....

(เชื่อไหม? บางราย ให้ผมออกค่าจ้างเพิ่มอีก 10,000 บาท และเค้าเอาไม้และของทั้งหมด )

ดังนั้นอย่ารีบด่วนตัดสินใจ ... นะครับ

กว่าจะได้ที่และบ้านมา โดยการประมูล

ก่อนที่เราจะ เก็บเรื่องราวบันทึก การสร้างบ้าน ขอเก็บความทรงจำ ของบ้านนี้ และการได้มาสักหน่อยก่อน


<<< เกรินนำ >>>

บ้านนี้ ..... เป็นบ้านที่เราประมูลมา

บ้านนี้ ..... อยู่ติดกับบ้านแม่ (ซึ่ง ก๋อเต็ก, อ๋า และฝุก ได้ร่วมกันทำสัญญาปลูกบ้าน บนที่ดินของแม่ ที่แม่ยกให้แล้ว)

บ้านนี้ ..... เดิมที่เป็นบ้านของ พี่อ๊อด (ซึ่งเป็นลูกของน้าเปรื่อง ที่เป็นน้องสาวของแม่แท้ๆ)

บ้านนี้ ..... เดิมทีเคยเป็นบ้านของยาย ตอนเด็ก ๆ แม่จะพามาเที่ยว และชอบมากที่ได้กินข้าวบ้านยาย ถึงแม้ กับข้าวจะน้อยมาก

<<< ได้ข่าวว่า... บ้านนี้ .. มีปัญหาติดจำนองกับ ธ.ทหารไทย >>>

ได้ข่าวว่าบ้านนี้ ติดจำนอง และถูกขายทอดตลาด .....

เราเลยให้เพื่อที่อยู่ฝ่ายสินเชื่อ ธ.ทหารไทย หาข้อมูลให้ ปรากฏว่า กำลังอยู่ระหว่างการจะออกขายทอดตลาด เลยให้เพื่อนช่วยดูว่า ถ้าจะซื้อราคาจะได้ประมาณเท่าไหร่ ได้ความว่าอยู่ที่ ล้าน 4

อยากได้ถูกกว่านี้ ..... แต่คงเป็นไปไม่ได้ .... เพื่อนแนะนำลองประมูล ... แต่ bank น่าจะตัดขายอยู่ที่ ล้าน 4

หาข้อมูล บน Web และสอบถามข้อมูลกับ กรมบังคับคดี

<<< วันประมูล >>>

ตื่นเต้นมาก .....

พกเงินไป 50,000 บาท เพื่อลงทะเบียน เข้าประมูล ....

เค้าจะให้ ป้ายเลขที่ มาให้ เพื่อทำการยกประมูล

.... นั่งรอ ... ดูการประมูล สินทรัพย์ อื่น ๆ ... ไปเรื่อย ๆ ใจก็ลุ้น ถ้าถึงเราจะทำอย่างไรดีว่ะ ...

และแล้วก็ถึง ตาเรา ... บ้านหลังนี้ แสดงรูปอยู่บนจอ การประมูล ....

เริ่มต้นการประมูล ด้วยราคาแค่ 750,000 บาทเอง ....

เจ้าหน้าที่ของ Bank เริ่มก่อน ... เราคอยจอง ... เดี๋ยวจะยกสักหน่อย ...

มีเสียง จากเจ้าหน้าที่ขานราคา ขึ้น เป็น 770,000 บาท ... หันไปดู ... เฮ้ย มีคนจ้องประมูลบ้านหลังนี้ด้วยหรือ ???? .... ตายล่ะหว่า แล้ว ล้าน 4 จะได้ไหมว่ะเนี่ย ....

ใจเย็น ๆ ... ให้เค้ายกกันไปก่อน .....

ก็จะมีเสียงเจ้าหน้าที่ขานราคา ขึ้นเรื่อย ๆ ... จาก เจ้าหน้าที่ Bank จาก คนประมูล ... สลับไปสลับมา

1 ล้าน 1 แสน แล้ว .... !!!

ถึงตอนนี้ คนประมูลที่เคยยก .... ไม่ยกซะแล้ว .... ???

ทำอย่างไรล่ะทีนี้ .... ถ้าเราไม่ยก ... อดแน่ ๆ เลย ...
หรือจะให้ Bank เอาไป แล้ว เราค่อยไปขอซื้อต่ออีกที ....
ไม่เอาดีกว่า ... เดี๋ยวไม่ได้ ... เอาว่ะ ... สู้ ก็สู้ ...

ยก .... ยก ... เลย ทุกสายตา ... หันมามองที่เราทันที
เสียงขานราคา 1,120,000 บาท ....

ยังไม่ทันไร 1,140,000 ดังมาติด ๆ เลย ....

ยกอีก ... ยกอีก ... ถึงตอนนี้ แทบไม่ได้ฟังราคาแล้ว ... ถ้าเค้ายก เราก็ยก ....
สั่น ก็ สั่น สู้ก็สู้ ....

ใครที่อยู่ที่นั้น แล้วเป็นคนยกสู้ ขอเตือน ให้กำหนดจุด ที่ตัวเองต้องหยุดไว้ให้มั่น
ไม่เช่นนั้น ถ้าประมูลได้มาแล้ว อาจไม่มีเงินจ่ายก็ได้ ....

แต่พอดีเรามี Limit ที่ ล้าน 4

1,360,000 ....

ใกล้ถึงแล้ว .... ยก

1,380,000 .... ตายล่ะหว่า เดี๋ยว ล้าน 4 ต้องเป็นตาของ Bank ...

ล้าน 4 .... พลาดไปเรา ... เราน่าจะเป็นคนเรียก ล้าน 4 นะ Bank จะได้หยุด

เกินแล้วนะ .... Bank มันยังไม่หยุดอีก ... ลองอีกที

เอาว่ะ ... ยก ...

1,420,000 ....

Bank ไม่ยกแล้ว ... เคาะ 1.... เคาะ 2....

เคาะ 3 ..... สินทรัพย์ ..... ได้ในราคา 1,420,000 .....

เฮอะ ... สำเร็จ ... ได้แล้ว ....

แต่ยังนึกเสียดาย ถ้าจบลงที่ 1,400,000 ก็คงจะดีเนอะ +++



<<< ทำสัญญากู้เงินจาก ธ.ทหารไทย >>>

เมื่อประมูลได้แล้ว เราก็ไปติดต่อกับ ธ.ทหารไทย สาขาเตาปูน โดยการแนะนำของเพื่อนกิม ที่รู้จักกับผู้จัดการ เพื่อกู้ยืมเงิน ....

ไปกรมที่ดิน ... ทำสัญญา ... และแล้ว เราก็เป็นหนี้ธนาคาร

แต่เราก็ได้บ้านมา อยู่ติดกับบ้านแม่เลย ... มีเพียงกำแพงรั้วกั้น เท่านั้น



<<< เจาะกำแพง >>>

ได้มา แต่อยู่ไม่ได้ ต้องปรับปรุง อีกหลายตังค์

เอาอย่างนี้ดีกว่า เจาะกำแพง ติดประตู ...

เปิด เข้าออก ... จากบ้านแม่ มา ได้ ...

ไว้มีเงินค่อยทำ ...